วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2552

หน่วยที่ 10 ปัญหาและข้อควรระวังในการใช้อินเทอร์เน็ต





จุดประสงค์การเรียนรู้


1. นักเรียนสามารถอธิบายข้อควรปฏิบัติในการใช้งานอินเทอร์เน็ตและสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตร่วมกับ ผู้อื่นได้
2. นักเรียนสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาในการใช้งานอินเทอร์เน็ต์ได้อย่างถูกต้อง
3•สามารถป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์ จากไวรัสได้
4. นักเรียนสามารถอธิบายขั้นตอนในการรักษาความปลอดภัยในเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้


การใช้เครือข่าย อินเทอร์เน็ตร่วมกับบุคคลอื่น


ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันสูงมาก จนทำให้วิถีการทำงาน และการดำเนินชีวิตของคนเปลี่ยนแปลงไป จนทำให้คนจำนวนไม่น้อยใช้เวลาในโลกของการออนไลน์ ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต พอ ๆ กับที่ใช้เวลาทำสิ่งต่าง ๆ บนโลกจริง


มารยาทในการใช้อินเทอร์เน็ต เรียกว่าบัญญัติ 10 ประการของการใช้อินเทอร์เน็ตได้ โดยอาจารย์ยืน ภู่วรวรรณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร

ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์ทำร้าย หรือละเมิดผู้อื่น
ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อื่น
ต้องไม่สอดแนม แก้ไข หรือเปิดดูแฟ้มข้อมูลของผู้อื่น
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการโจรกรรมข้อมูลข่าวสาร
ต้องไม่ใช้คอมพิวเตอร์สร้างหลักฐานที่เป็นเท็จ
ต้องไม่คัดลอกโปรแกรมของผู้อื่นที่มีลิขสิทธิ์
ต้องไม่ละเมิดการใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์โดยที่ตนเองไม่มีสิทธิ์
ต้องไม่นำเอาผลงานของผู้อื่นมาเป็นของตน
ต้องคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับสังคมที่เกิดจากการกระทำของท่าน
ต้องใช้คอมพิวเตอร์โดยเคารพกฎระเบียบ กติกา และมีมารยาท

ปัญหาและข้อควรระวังในการใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ต

ข้อควรระวังในการใช้งานอินเทอร์เน็ตในสังคมอินเทอร์เน็ตนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดีเช่นเดียวกับสังคมทั่วไปผู้ที่ไม่ระมัดระวังจึงอาจถูกล่อลวงไปในทางที่ผิดหรือก่อให้เกิดอันตรายได้
1. ไม่บอกข้อมูลส่วนตัวให้แก่บุคคลอื่นที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต 2. หากพบข้อความหรือรูปภาพใดๆบนอินเทอร์เน็ตที่มีลักทราบษณะไม่เหมาะสมควรแจ้งให้ผู้ปกครองทันที 3. ไม่ควรไปพบบุคคลใดก็ตามที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ตโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน 4. ไม่ส่งรูปหรือสิ่งใดๆ ให้บุคคลที่รู้จักทางอินเทอร์เน็ต โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองก่อน 5. ไม่ตอบคำถามกับผู้ที่สื่อข้อความหยาบคาย 6. ควรคารพต่อข้อตกลงในการใช้อินเทอร์เน็ตที่ให้กับผู้ปกครอง

ในด้านข้อเสีย แพทย์พบว่าการเล่นเกมติดต่อกันครั้งละนานๆ มีผลเสียต่อสุขภาพปัญหาที่พบบ่อยคือ อาการล้าของสายตากล้ามเนื้อที่แขน คอ ไหล่ และหลัง นอกจากนี้ยังพบอาการ ลมชัก ปวดศีรษะ ประสาทหลอน บางรายมีอาการรุนแรงเข้าขั้นประสาทและกล้ามเนื้อบางส่วนเสื่อมสภาพไปและเชื่อกันว่าการติดเกมเป็นสาเหตุทางอ้อมของโรคอ้วน เด็กบางคนที่หมกมุ่นอยู่กับการเล่นเกมมากเกินไป จนไม่สนใจเพื่อนๆ และสังคมรอบข้าง ในที่สุดจะกลายเป็นคนขี้อายและตัดขาดจากสังคม

การป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์จากไวรัส
ไวรัส (Viruses) คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ประเภทหนึ่งที่ถูกออกแบบมาให้แพร่กระจายตัวเองจากไฟล์หนึ่งไปยังไฟล์อื่นๆ ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ ไวรัสจะแพร่กระจายตัวเองอย่างรวดเร็วไปยังทุกไฟล์ภายในคอมพิวเตอร์
โดยทั่วไปเกิดจากการที่ผู้ใช้เป็นพาหะ นำไวรัสจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง เช่นเวลาที่ส่ง e-Mail โดยแนบเอกสาร หรือไฟล์ที่มีไวรัสไปด้วย, การทำสำเนาไฟล์ที่ติดไวรัสไปไว้บนไฟล์เซริฟเวอร์
แม้ว่าจะมีไวรัสหลายพันชนิด แต่ไวรัสส่วนใหญ่อยู่ในห้องทดลองคอมพิวเตอร์ มีไวรัสเพียงประมาณ 500 กว่าชนิดที่ยังอาละวาดอยู่ และส่วนใหญ่ไวรัสเหล่านี้แทบจะไม่มีอันตรายต่อคอมพิวเตอร์และข้อมูล เพียงแต่อาจจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงด้วยการแย่งใช้หน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นต้น อย่างไรก็ตามมีวิธีง่ายๆที่จะช่วยป้องกันเครื่องคอมพิวเตอร์และข้อมูลจากไวรัส

1.ใช้โปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัส (anti-virus) อย่างไรก็ตามไม่มีโปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัส โปรแกรมใดสมบูรณ์แบบการเตือนที่ผิดพลาดว่ามีไวรัสก่อให้เกิดความรำคาญพอๆกับตัวไวรัสเองอย่าลืมว่าจะต้อง update โปรแกรมที่ใช้ตรวจจับและกำจัดไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
2.scan ทุกไฟล์บนดิสก์และ CD-ROM ก่อน นำลง hard disk
3.scan ทุกไฟล์ที่ download มาจาก internet
4.scan ไฟล์หรือโปรแกรมที่ติดมากับ e-mail ก่อนที่จะเปิดอ่านหรือเก็บลงบน hard disk

5.เก็บเอกสารในรูปของ ASCII Text Mode หรือ Rich Text Format (RTF) โดยเฉพาะเอกสารที่ใช้ ร่วมกันบน network ทั้งสอง format จะไม่ save ส่วนที่เป็น macro ลงพร้อมกับเอกสารด้วยซึ่งทำให้ปลอดภัยจาก macro viruses
6.back up ข้อมูลและโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอและที่สำคัญอย่าเก็บ back up ไว้ใน hard disk
7.สำหรับเครื่องที่มีฮาร์ดดิสก์ อย่าเรียกดอสจากฟลอปปีดิสก์
8.ป้องกันการเขียนให้กับฟลอปปีดิสก์
9.อย่าเรียกโปรแกรมที่ติดมากับดิสก์อื่น
10.เสาะหาโปรแกรมตรวจหาไวรัสที่ใหม่และมากกว่าหนึ่งโปรแกรมจากคนละบริษัท
11.เรียกใช้โปรแกรมตรวจหาไวรัสเป็นช่วง ๆ
12.เรียกใช้โปรแกรมตรวจจับไวรัสแบบเฝ้าดูทุกครั้ง เลือกคัดลอกซอฟแวร์เฉพาะที่ถูกตรวจสอบแล้วใน บีบีเอส
13.เตรียมฟลอปปีดิสก์ที่ไว้สำหรับให้เรียกดอสขึ้นมาทำงานได้ เมื่อเครื่องติดไวรัส ให้พยายามหาที่มาของไวรัสนั้น

การรักษาความปลอดภัยในเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ควรมีการตรวจจับไวรัสในข้อมูลหรือโปรแกรมทุกๆ อย่างที่นำมาจากอินเทอร์เน็ตโดยติดตั้งโปรแกรม
ตรวจจับไวรัสที่เครื่องคอมพิวเตอร์

ข้อแนะนำเบื้องต้นในการใช้คอมพิวเตอร์ และเครือข่ายอย่างปลอดภัยมีดังนี้ - เมื่อเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตเป็นครั้งแรก ควรปรึกษาผู้ใหญ่เกี่ยวกับแนวทางในการ ใช้ในการใช้อินเทอร์เน็ตต่อวันและเมื่อผู้ใช้มีความรู้ และคุ้นเคยในการใช้งานจริงบ้าง แล้ว จึงค่อยปรับเปลี่ยนแนวทางในใช้เวลาในการใช้อินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมต่อไป และ ควรเขียนแนวทางในการใช้อินเทอร์เน็ตติดไว้ใกล้กับ
คอมพิวเตอร์ เพื่อความสะดวก
การจัดระบบการใช้อินเทอร์เน็ต
-
อย่าให้รหัสลับแก่ผู้อื่น
-
ปรึกษาผู้ใหญ่ก่อนทุกครั้งที่จะทำการลงทะเบียนใด ๆ บนอินเทอร์เน็ต
-
ไม่ควรให้ข้อมูลใด ๆ กับผู้ที่ไม่รู้จัก โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับระบบรักษา ความปลอดภัย สำหรับนิสิตผู้ใช้
-
ไม่ควรให้ข้อมูล ชื่อ ที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์กับบุคคล ที่ไม่เคยรู้จักตัว
-
ไม่ควรดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งข้อมูลที่ไม่รู้จัก หรือถ้าได้รับโปรแกรม ที่ส่งมาให้ทดลองจากคนไม่รู้จัก ไม่ควรที่จะเรียก รันบนเครื่องคอมพิวเตอร
-
ไม่เปิดเครื่องที่ login ค้างไว้ โดยที่ตัวเองไม่อยู่ที่โต๊ะทำงาน
-
ควรมีการสแกนไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
-
ทำสำเนาข้อมูลไว้อย่างสม่ำเสมอ

อย่าเปิดเอกสารหรืออีเมลล์หรือไฟล์ จากบุคคลอื่นที่ไม่รู้จัก เพราะอาจมีไวรัส หรือข้อมูลไม่เหมาะสม

มากับเอกสารหรืออีเมลล์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น